3 เคล็ดลับ PRESENT งานวิจัยให้ผู้ฟังประทับใจ

แนะนำเทคนิคการ Present งานวิจัยให้คณะกรรมการหรือผู้ฟัง สามารถเข้าใจเนื้อหางานวิจัย ความสำคัญของงานวิจัยที่เรานำเสนอได้อย่างชัดเจน และมีประสิทธิภาพ

1.               นำเสนอปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของการทำวิจัย

การทำวิจัยจำเป็นที่จะต้องมีปัญหาที่เป็นที่มาที่ไปของการตั้งต้นทำการศึกษาวิจัยครั้งนี้ โดยปัญหาดังกล่าวนั้นจะต้องมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาเรื้อรังนี้จะต้องเป็นปัญหาในระดับจังหวัดหรือระดับประเทศชาติ หรือส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน

การทำปัญหาดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่จะนำมาเสนอ เพื่อชี้ให้คณะกรรมการหรือผู้ฟังเข้าใจว่าปัญหานี้คืออะไร โดยการสรุปเป็นคีย์เวิร์ดสั้นๆ เพียงแค่ไม่เกิน 2-3 บรรทัด อาจจะนำรูปภาพมาประกอบหรืออินโฟกราฟิกสรุปประกอบ เพื่อให้สามารถเห็นประเด็นของปัญหาได้อย่างตรงไปตรงมา

เราอาจจะนำเสนอโดยการใช้คีย์เวิร์ดที่สะท้อนปัญหาเพียงสั้นๆไม่กี่คำ แล้วใช้การอธิบาย Present ของตัวผู้บรรยาย เพื่อนำเสนอโดยใช้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ไม่เน้นการนำเสนอเพียงแค่ว่าเป็น Text ข้อความล้วนๆ เพียงอย่างเดียว

เนื่องจากการนำเสนอที่ดี และมีประสิทธิภาพมีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าผู้ฟังนั้นจะให้ความสนใจกับสิ่งที่เป็นรูปภาพ หรือสิ่งที่เป็นวิดีโอเคลื่อนไหว

หากท่านสามาถสร้างสิ่งที่เป็นรูปภาพหรือวิดีโอเคลื่อนไหวเพื่อนำเสนอได้ จะส่งผลให้การ Present งานวิจัยของท่านมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพูดใส่ทำนอง โทนเสียงที่ใส่อารมณ์ความรู้สึกที่จริงจัง และชักจูงให้ผู้ฟังเกิดการคล้อยตาม

จะส่งผลให้คณะกรรมการนั้นมีความสนใจในประเด็นปัญหาของท่าน และผลการวิจัยของท่านจะน่าฟัง และน่าติดตามมากยิ่งขึ้น

2.               ยกกรณีตัวอย่างของปัญหา

การยกกรณีตัวอย่างของปัญหาขึ้นมาประกอบการนำเสนอนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าการยกกรณีตัวอย่างที่ปัญหานั้น ส่งผลกระทบหากว่าไม่ทำการศึกษาวิจัย เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้นจะมีผลเสียร้ายแรงอย่างไร เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ฟังนั้นเข้าใจได้ว่าปัญหาหลักนี้มีผลกระทบยิ่งใหญ่ หรือมากน้อยเพียงใด

เพื่อที่จะชี้ชัดว่าปัญหาดังกล่าวเป็นสิ่งที่หากไม่ทำการศึกษาวิจัยแล้ว จะส่งเสียในระยะยาว หรือเป็นสิ่งที่จะส่งผลเสียในระดับมหภาค เพื่อที่จะเน้นย้ำว่าปัญหาของการวิจัยที่เราทำการศึกษาอยู่ในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องได้รับความสำคัญที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันที

ดังนั้นการศึกษาการวิจัยครั้งนี้ จึงมีที่มาที่ไปที่สำคัญ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว และถ้าหากสามารถยกกรณีตัวอย่างขึ้นมาได้ เพื่อเปรียบเทียบหรือเข้าถึงได้ง่าย จะทำให้ผู้ฟังหรือคณะกรรมการนี้สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าท่านนั้นมีที่ส่วนร่วมในปัญหานั้น และเล็งเห็นถึงปัญหานั้นอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้

3.               ผลการวิจัยนี้แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร

หลังจากยกประเด็นปัญหาขึ้นมาแล้ว ผลการวิจัยที่ท่านทำการศึกษาวิจัยนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่สำคัญที่ท่านจำเป็นจะต้องยกข้อมูลมานำเสนอสรุปเป็นแผนภาพอินโฟกราฟิก หรือรูปภาพที่เข้าใจได้ง่าย

โดยใช้คำที่สั้น กระชับ ชัดเจน และสื่อสารได้อย่างตรงประเด็นให้กับผู้ฟังหรือคณะกรรมการเข้าใจได้เลยว่าปัญหาของการวิจัยครั้งนี้สามารถใช้ผลการวิจัยของท่านนั้นแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

โดยเฉพาะผลการวิจัยของท่านนี้ มีกระบวนการการศึกษา มีวัตถุประสงค์การวิจัยอย่างไร และผลการวิจัยของท่านสามารถตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัยของท่านนั้นได้อย่างไร สามารถแก้ไขปัญหาการวิจัยดังกล่าวนี้ได้หรือไม่ หากท่านสามารถที่จะนำเสนอด้วยรูปภาพได้ ก็สามารถกระทำได้

เนื่องจากว่าการนำเสนอด้วยรูปภาพเป็นการให้ผลการวิจัยของท่านนั้น มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และจะทำให้การ Present งานวิจัยของท่านนั้นมีประสิทธิภาพ และมีความน่าสนใจมากกว่าบุคคลท่านอื่น ที่มีการ Present ที่ไม่มีการใช้รูปภาพประกอบการนำเสนอ

หากท่านสามารถนำเทคนิค Present งานวิจัยทั้ง 3 ขั้นตอนนี้มาประยุกต์ใช้ในการที่จะ Present งานวิจัย หรือการทำงานในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้การนำเสนองานต่อหน้าคณะกรรมการ หรือผู้ฟัง นั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้

Credit : https://bit.ly/3AkSBAD

#เรียนวิจัย #รับติวสอบ #รับปรึกษางานวิจัย #ทำdissertation #ทำthesis #ทำวิทยานิพนธ์ #ทำวิทยานิพนธ์ปตรี #ทำวิทยานิพนธ์ปโท #ทำวิทยานิพนธ์ปเอก #สอนโปรแกรมSPSS #รับทำงานวิจัย #ที่ปรึกษางานวิจัย #รับทำดุษฎีนิพนธ์ #รับติววิทยานิพนธ์ #รับติวธีสิส #รับติวสารนิพนธ์ #รับติววิจัย #รับติวงานวิจัย #รับสอนวิทยานิพนธ์ #รับสอนธีสิส #รับสอนสารนิพนธ์ #รับสอนวิจัย #รับสอนงานวิจัย #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ #รับปรึกษาธีสิส #รับปรึกษาสารนิพนธ์ #รับปรึกษาวิจัย #รับปรึกษางานวิจัย #รับติววิทยานิพนธ์ปตรี #รับติววิทยานิพนธ์ปโท #รับติววิทยานิพนธ์ปเอก #รับสอนวิทยานิพนธ์ปตรี #รับสอนวิทยานิพนธ์ปโท #รับสอนวิทยานิพนธ์ปเอก #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปตรี #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปโท #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปเอก #สอนทำวิจัย ##รับสอนดุษฎีนิพนธ์ #รับติวดุษฎีนิพนธ์ #รับปรึกษาดุษฎีนิพนธ์ #ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ปรึกษาวิจัย #ปรึกษางานวิจัย #ทำวิจัยปโท #phdthesis #หัวข้อวิทยานิพนธ์ #รับทำdissertation #บริษัทรับทำวิจัย #รับเขียนบทความวิชาการ #thesiswriter #spssราคา #ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ทำวิจัยพยาบาล #รับปรึกษาวิจัย #ราคารับทำงานวิจัย

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

จากการศึกษาเรื่อง ทำไมฝนตกแล้วต้องเหงา หรือผลกระทบจากสภาพอากาศต่อสภาพจิตใจในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยานั้นพบว่า ในช่วงที่ฝนตก สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่ลดต่ำลง และแสงสว่างที่ลดน้อยลง ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของแสงสว่างที่ลดน้อยลงในวันที่ฝนตก เพราะร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ที่คอยกำหนดการทำงานของสมองและร่างกายในแต่ละช่วงของวัน . ซึ่งแสงส่งผลได้อย่างชัดเจน สามารถนึกถึงอารมณ์เวลาที่ตื่นมาในวันที่มีแสงแดดแรง ท้องฟ้าสดใส และไม่ร้อนจนเกินไป กับวันที่ตื่นมาแล้วท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม อารมณ์ความรู้สึกในวันนั้นก็แตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล เพราะการได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือน้อยลงในตอนเช้าส่งผลต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ ต่อเนื่องไปยังสมอง ทำให้สมองผลิตเซโรโทนิน

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

วัยรุ่นวัยใสที่ยังไม่มีแฟนหรือแทบจะไม่ได้ไปออกเดทกับใครเขา มักถูกมองว่าขาดเสน่ห์หรือเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก แต่ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมวัยรุ่นในสหรัฐฯ เชื่อกันมานานว่า วัยรุ่นที่มีคู่คบหาดูใจจะมีโอกาสพัฒนาทักษะทางสังคมและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่แล้วความเชื่อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป . เนื่องจากทีมนักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียของสหรัฐฯ ได้มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร “สุขภาพในโรงเรียน” (Journal of School Health) โดยระบุว่า ผลการติดตามเก็บข้อมูลระยะยาวเป็นเวลา 7 ปีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชี้ว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนกับใครและไม่ค่อยได้ออกเดทนั้น ไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตวิทยาตามวัยด้อยไปกว่าเพื่อนที่มีแฟน หนำซ้ำยังมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า และมีภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน . เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมการรับสื่อและทัศนคติต่อการรับชมโฆษณา-แคมเปญการตลาดของผู้บริโภคชาวไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทวิจัยสื่อ-การตลาดรายใหญ่ สามารถประมวลเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกับการสื่อสารและทำการตลาดของภาคธุรกิจในปี 2566 นี้ . พบว่า ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน และ 61% เลือกซื้อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน รวมถึง