108 การสื่อสารกับอาจารย์ที่ปรึกษา

108 การสื่อสารกับอาจารย์ที่ปรึกษา
การทำงานวิจัยแต่ละครั้งนักศึกษาที่เป็นผู้วิจัยมือใหม่อาจจะมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับอาจารย์ที่ปรึกษา และควรจะทำอย่างไรเพื่อให้พูดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาได้อย่างเข้าใจตรงกันและมีความเห็นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ในบทความนี้มีคำตอบ

  1. ต้องคิดเสมอว่าไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
    สิ่งที่ควรเริ่มทำเป็นอย่างแรกในการทำงานวิจัยคือ การศึกษาระเบียบวิธีการทำวิจัยต่างของสถาบันการศึกษาที่เราทำการศึกษาอยู่ เพื่อให้ทราบขอบเขตของการทำวิจัยว่าเป็นอย่างไร และจัดเตรียมเนื้อหาข้อมูลต่างๆ สำหรับเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย เพื่อขอคำแนะนำในขอบเขตงาน หรือขอคำแนะนำในประเด็นที่ผู้วิจัยอาจจะยังเข้าใจไม่ชัดเจนเพียงพอ

ในการขอความรู้หรือประสบการณ์จากอาจารย์ที่ปรึกษานั้น ผู้วิจัยไม่ควรที่จะนำอคติหรือทัศนคติของตนเองมาเป็นที่ตั้ง เพื่อที่จะโต้เถียงหรือยืนยันว่าความคิดของตนเองนั้นถูกต้อง เพราะนั่นอาจจะทำให้ท่านไม่ได้รับความรู้จากอาจารย์ที่ปรึกษาในการพัฒนาองค์ความรู้ของตนเองให้ดียิ่งขึ้น

  1. ต้องเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ปรึกษาวิจัยเพราะท่านมีประสบการณ์มากกว่า
    อาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละท่านกว่าจะมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยได้นั้น จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และมีประสบการณ์มากกว่าตัวท่านที่ทำงานวิจัยเป็นเล่มแรกอย่างแน่นอน

ดังนั้นท่านควรทำความเข้าใจว่าอาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละท่านนั้นมีคุณสมบัติทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิเพียงพอที่จะให้คำแนะนำแก่ท่าน เพื่อให้ท่านนั้นนำไปประยุกต์ใช้ในการทำวิจัยของท่านให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องพัฒนาเป็นอย่างแรกคือตัวของท่านเอง เพราะงานวิจัยจะออกมาดีมากแค่ไหน อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการพัฒนาตนเองของท่าน เนื่องจากการทำงานวิจัยแต่ละครั้ง จะเป็นสิ่งที่พัฒนาองค์ความรู้ที่อยู่ในตัวของท่าน ให้นำไปพัฒนาต่อยอดและบูรณาการความรู้ของสาขาวิชาที่ท่านทำการศึกษาวิจัย และเป็นการพัฒนาตนเองด้วยเช่นกัน

  1. ควรปรึกษากับที่อาจารย์ปรึกษา 2 คนขึ้นไป
    ในการทำวิจัยแต่ละครั้งนั้นไม่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษาวิจัยเพียงท่านเดียว เนื่องจากอาจารย์ที่ปรึกษาบางท่านนั้นอาจจะมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกับผู้วิจัย และท่านไม่จำเป็นที่จะต้องเอาความคิดเห็นของตนเองเป็นที่ตั้ง เพื่อโต้เถียงกับอาจารย์ที่ปรึกษาจนอาจจะก่อให้เกิดความผิดใจกันระหว่างอาจารย์ที่ปรึกษากับผู้วิจัยได้

การแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้สามารถทำได้โดยให้ท่านปรึกษากับอาจารย์ในภาควิชาหรือสาขาวิชาเดียวกันอีกท่านเพื่อหาที่ปรึกษาวิจัยอีกท่านหนึ่ง ที่มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกับความคิดเห็นของท่าน และนำคำพูดของที่ปรึกษาท่านดังกล่าว มาทำให้คำพูดของท่านนั้นมีน้ำหนักมากขึ้นเพื่อให้อาจารย์ที่ปรึกษาหลักของท่านเข้าใจ ว่าคำแนะนำของท่านนั้นอาจจะมีสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือมีความคิดเห็นที่สามารถตีความได้หลายแบบ
โดยมากแล้วอาจารย์ที่ปรึกษาหลักมักจะยึดความคิดเห็นของตนเองเป็นที่ตั้ง เพราะว่าท่านมีความเชี่ยวชาญในการทำวิจัยเกี่ยวเรื่องนั้นๆ และอาจจะยึดแนวทางการทำวิจัยดังกล่าวว่าสิ่งนั้นถูกต้อง
แต่ท่านที่เป็นผู้วิจัยนั้นอาจจะทราบข้อมูลมาอีกแบบหนึ่ง จึงเกิดความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่อาจารย์แนะนำ วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดนั้นคือการประนีประนอม โดยนำคำแนะนำจากอาจารย์อีกท่านมาเพิ่มน้ำหนักในความเห็นของท่าน ก็จะทำให้สถานการณ์นั้นดีขึ้นจนสามารถทำงานวิจัยให้สำเร็จลุล่วงไปได้
จากสิ่งที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นวิธีการแก้ไขที่สามารถทำให้งานวิจัยสำเร็จลุล่วงไปได้โดยดี หากท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับงานวิจัยของท่านได้ ก็ถือว่าท่านทำงานวิจัยนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

จากการศึกษาเรื่อง ทำไมฝนตกแล้วต้องเหงา หรือผลกระทบจากสภาพอากาศต่อสภาพจิตใจในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยานั้นพบว่า ในช่วงที่ฝนตก สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่ลดต่ำลง และแสงสว่างที่ลดน้อยลง ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของแสงสว่างที่ลดน้อยลงในวันที่ฝนตก เพราะร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ที่คอยกำหนดการทำงานของสมองและร่างกายในแต่ละช่วงของวัน . ซึ่งแสงส่งผลได้อย่างชัดเจน สามารถนึกถึงอารมณ์เวลาที่ตื่นมาในวันที่มีแสงแดดแรง ท้องฟ้าสดใส และไม่ร้อนจนเกินไป กับวันที่ตื่นมาแล้วท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม อารมณ์ความรู้สึกในวันนั้นก็แตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล เพราะการได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือน้อยลงในตอนเช้าส่งผลต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ ต่อเนื่องไปยังสมอง ทำให้สมองผลิตเซโรโทนิน

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

วัยรุ่นวัยใสที่ยังไม่มีแฟนหรือแทบจะไม่ได้ไปออกเดทกับใครเขา มักถูกมองว่าขาดเสน่ห์หรือเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก แต่ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมวัยรุ่นในสหรัฐฯ เชื่อกันมานานว่า วัยรุ่นที่มีคู่คบหาดูใจจะมีโอกาสพัฒนาทักษะทางสังคมและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่แล้วความเชื่อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป . เนื่องจากทีมนักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียของสหรัฐฯ ได้มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร “สุขภาพในโรงเรียน” (Journal of School Health) โดยระบุว่า ผลการติดตามเก็บข้อมูลระยะยาวเป็นเวลา 7 ปีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชี้ว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนกับใครและไม่ค่อยได้ออกเดทนั้น ไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตวิทยาตามวัยด้อยไปกว่าเพื่อนที่มีแฟน หนำซ้ำยังมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า และมีภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน . เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมการรับสื่อและทัศนคติต่อการรับชมโฆษณา-แคมเปญการตลาดของผู้บริโภคชาวไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทวิจัยสื่อ-การตลาดรายใหญ่ สามารถประมวลเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกับการสื่อสารและทำการตลาดของภาคธุรกิจในปี 2566 นี้ . พบว่า ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน และ 61% เลือกซื้อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน รวมถึง