ผมยังไม่มีความรู้ วิทยานิพนธ์ทํายังไงเลยครับ

“ผมยังไม่มีความรู้ วิทยานิพนธ์ทํายังไงเลยครับ”

“ควรเริ่มยังไงดี ผมคิดว่าจะไปหาวิทยานิพนธ์ทํายังไงของคนอื่นมาอ่านๆ ดู หัวข้อ วิธีการทำ มาเป็นแนวทาง ดีเปล่าครับ”

ราชบัณฑิตยสภา กล่าวว่า วิทยานิพนธ์ ประกอบด้วยคำว่า วิทยา กับ นิพนธ์. คำว่า วิทยา ในที่นี้ใช้หมายถึง วิชาการ คือ ความรู้ที่เป็นศาสตร์ในสาขาใด ๆ ที่มีการศึกษากัน โดยเฉพาะในระดับบัณฑิตศึกษา. คำว่า นิพนธ์ แปลว่า แต่งหนังสือ. คำว่า วิทยานิพนธ์ จึงแปลว่า หนังสือที่แต่งเรื่องทางวิชาการ. ใช้เรียกผลงานของนักศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอก ที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงความรู้ที่ค้นคว้ามาได้ใหม่ เช่น นักศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกต้องศึกษาค้นคว้าความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลึกซึ้ง เมื่อได้ความรู้ใหม่แล้วจึงเสนอเป็นวิทยานิพนธ์เพื่อขอรับปริญญามหาบัณฑิตหรือดุษฎีบัณฑิต

วิทยานิพนธ์ในระดับโทและเอก จะแบ่งรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแตกต่างกันตามแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นผู้จัดหลักสูตรขึ้นมา ต้องอาศัยการศึกษาวิจัย ฐานข้อมูลงานวิจัย หางานวิจัย ค้นหาวิจัย เว็บวิจัย ส่วนแรกจะเป็นการเรียนการสอนในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่ลงทะเบียน เช่น Research methodology พร้อมหาหัวข้อสำหรับทำวิทยานิพนธ์

ส่วนที่สองจะเป็นการทำวิทยานิพนธ์ทํายังไง จะต้องคัดเลือกสถานที่วิจัย ประชากร การกำหนดจำนวนตัวอย่างและสุ่มตัวอย่าง สถิติวิเคราะห์ที่ต้องใช้ เหตุผลที่ใช้ การพัฒนาเครื่องมือ ในการเก็บข้อมูล การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ และเหตุผลที่เลือกใช้วิธีนั้นๆ การแปลผลการวิเคราะห์ทางสถิติ แม้กระทั้งรูปแบบตาราง สำหรับการนำเสนอผลการวิเคราะห์ นักศึกษาจะเลือกหัวข้อที่สนใจแตกต่างกัน สำหรับการนำไปใช้ทำมาหากินในอนาคตต่อไป

การเขียนวิทยานิพนธ์ (Thesis) นำผลการศึกษาและทดลองทั้งหมด ต้องอาศัยการศึกษาวิจัย ฐานข้อมูลงานวิจัย หางานวิจัย ค้นหาวิจัย เว็บวิจัย ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาเรียบร้อยแล้วมาเรียบเรียงเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ ประกอบด้วยส่วนหลักสำคัญ 5 บท ได้แก่ (ข้อมูลที่นำเสนอในครั้งนี้เป็นเพียงตัวอย่างการเขียนวิทยานิพนธ์ทั่วไป ความแตกต่างขึ้นอยู่กับหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัย)

บทที่ 1 ความสำคัญของปัญหา

บทที่ 1 เขียนเริ่มจากสภาพปัญหาโดยทั่วไปโดยเป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ สมมติฐาน ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย ขอบเขตของการวิจัย ข้อจำกัดการวิจัยและนิยามศัพท์เฉพาะ ต้องอาศัยการศึกษาวิจัย ฐานข้อมูลงานวิจัย หางานวิจัย ค้นหาวิจัย เว็บวิจัย ได้แก่

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา (Statements and Significance of the Problems) กล่าวถึงที่มาของเรื่องที่จะต้องศึกษา เนื่องมาจาก สาเหตุอะไรเพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการวิจัยในเรื่องนี้
วัตถุประสงค์ของการวิจัย (Objectives) ได้แก่ ความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของการวิจัยว่าต้องการค้นหาข้อเท็จจริงในเรื่องใดบ้าง ควรระบุเป็นข้อ ๆ ให้ชัดเจน และจัดลำดับความสำคัญ
สมมติฐานของการวิจัย (Hypotheses) จะเขียนในส่วนนี้ ในกรณีที่ งานวิจัยนั้นมีสมมติฐาน เป็นการตอบคำถามล่วงหน้าจากวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ได้ตั้งไว้ โดยการอ้างอิงหลักการ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่ได้ศึกษามาก่อน การตอบคำถามล่วงหน้านี้จะช่วยให้ผู้ทำวิจัยมีแนวทางในการปฏิบัติงานได้ดีและสามารถออกแบบได้อย่างเหมาะสม
กรอบแนวคิดในการวิจัย (Conceptual Framework) การประมวลความคิดรวบยอดของงานวิจัยที่แสดงความเกี่ยวข้องระหว่างตัวแปรที่ศึกษา ดังนั้นหลักสำคัญในการเขียนกรอบแนวคิด คือ จะต้องอิงแนวคิด หลักการหรือทฤษฎีที่นำมาใช้เป็นกรอบการทำวิจัย และแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษา พิจารณาได้จากเนื้อหาของตัวแปรอิสระหรือตัวแปรที่ใช้ควบคุม และตัวแปรตาม ความสอดคล้องกัน แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่สอดคล้องกับความสนใจของผู้วิจัย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย (Contribution to Knowledge) เป็นการบอกให้ทราบว่าความรู้ที่ได้จากการวิจัย สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง อาจจะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญในการปฏิบัติงาน หรือสร้างองค์ความรู้ในสาขาวิชาที่วิจัย
ขอบเขตของการวิจัย (Scope of Study) เป็นการระบุว่าการวิจัยนั้นจะ ครอบคลุมเนื้อหาอะไร ประชากรที่ต้องการอ้างอิงผลการวิจัย ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลและตัวแปรที่วิจัย
นิยามศัพท์เฉพาะ (Definition of Terms) ได้แก่ การกำหนดความหมายคำในเชิงปฏิบัติการ (Operational Definitions) ที่ใช้ในการวิจัย
บทที่ 2 วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง

      บทที่ 2 เขียนจากสาระความรู้ที่เราได้ไปศึกษาค้นคว้ามา จากแหล่งความรู้ต่างๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับงานวิจัยของเรา (วิเคราะห์จากคำสำคัญ ตามชื่อวิทยานิพนธ์ของเราเป็นหลัก) ต้องอาศัยการศึกษาวิจัย ฐานข้อมูลงานวิจัย หางานวิจัย ค้นหาวิจัย เว็บวิจัย รวมทั้งการเขียนให้เชื่อมโยงกับแนวคิด ทฤษฎี และการอ้างอิงงานวิจัยของผู้อื่นที่นำมาประกอบ ต้องเขียนให้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกันอย่างกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นภาษาของเราเอง(ไม่เป็นการคัดลอก ตัดต่อข้อความของผู้อื่นมาเขียนติดต่อกัน หรือยกมาเขียนหมดทั้งตอน) ซึ่งเนื้อหาส่วนนี้จะให้ข้อมูลที่เป็นทฤษฎีแนวคิด หรือความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ทำวิจัยและกล่าวถึงงานวิจัยที่เคยมีผู้ทำไว้เพื่อสนับสนุนการวิจัย

บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย

      เขียนอธิบาย วิธีดำเนินการวิจัยของเราทุกขั้นตอนเรียงตามลำดับ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเนื้อหาส่วนนี้อธิบายวิธีดำเนินการวิจัยอย่างละเอียดตั้งแต่  วิธีที่ใช้ศึกษา  ลักษณะประชากร การเลือกกลุ่มตัวอย่าง การเลือกเครื่องมือและวิธีการ ความถูกต้องและเชื่อถือได้ของเครื่องมือ วิธีการรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล ต้องอาศัยการศึกษาวิจัย ฐานข้อมูลงานวิจัย หางานวิจัย ค้นหาวิจัย เว็บวิจัย 

บทที่ 4 ผลการวิจัย

      บทที่ 4 เขียนผลการวิจัย ตามลำดับของการดำเนินงานทดลองในบทที่ 3 ตามผลที่ปรากฏและเขียนอธิบายผลตามข้อเท็จจริงเป็นการรายงานผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดโดยละเอียดอาจนำเสนอด้วยการบรรยายหรือนำเสนอในรูปตาราง กราฟ ภาพ เพื่อให้การตีความหมายข้อมูลชัดเจนยิ่งขึ้น(อาจนำเสนอทั้งในรูปแบบตาราง กราฟ สถิติ และบรรยาย) ต้องอาศัยการศึกษาวิจัย ฐานข้อมูลงานวิจัย หางานวิจัย ค้นหาวิจัย เว็บวิจัย 

บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

      บทที่ 5 เขียนสรุปผลการวิจัย จากบทที่ 4 และเขียนอภิปรายผลการวิจัยอย่างเป็นเหตุเป็นผล โดยอาศัยทั้งภูมิรู้ของผู้วิจัย ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้ามาจากแหล่งความรู้ต่างที่ได้เขียนไว้แล้วในบทที่ 2 รวมทั้งองค์ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้ทำการวิจัยสิ้นสุดลงซึ่งอาจจะได้ผลสรุปที่สอดคล้องกับผลงานวิจัยของผู้อื่นที่ได้ทำการศึกษามาก่อนนี้แล้วนำมาประกอบการเขียนอภิปรายผลอย่างมีน้ำหนักให้งานวิจัยของเราเกิดความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในแวดวงวิชาการยิ่งขึ้น การเขียนอภิปรายผลจึงเป็นเสมือน ดัชนีชี้วัดความรู้ ความสามารถ และความแตกฉานในงานวิจัยของผู้ที่ได้ศึกษาค้นคว้า ว่ามีความลึกซึ้งมากน้อยเพียงใดกับงานวิจัยของตนเอง รวมทั้ง สามารถให้แนวคิด หรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการทำวิจัยอื่นๆ ในอนาคตได้อย่างเหมาะสมต่อไป ซึ่งเป็นการอภิปรายผลที่ในส่วนนี้ผู้วิจัยจะต้องนำประเด็นสำคัญของผลการศึกษามาอภิปรายว่าผลที่ค้นพบ สนับสนุนหรือ  ขัดแย้งกับทฤษฎีหรือตรงกับการศึกษาของผู้อื่นหรือไม่อย่างไร  หรือที่ได้กล่าวไว้ในวรรณกรรมประการใด โดยอ้างอิงทฤษฎี แนวคิดและผลการวิจัยของผู้อื่น หรือข้อมูลประกอบเพื่อยืนยันผลที่ได้รับจากการวิจัยของผู้วิจัย มีการค้นพบใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ เมื่ออภิปรายผลจบแล้ว ให้ผู้วิจัยสรุปผลการวิจัยเฉพาะประเด็นสำคัญในดุษฎีนิพนธ์ทั้งหมด

สุดท้ายการจะสำเร็จการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาได้นั้น จะต้องนำเสนอผลงานโดยโปสเตอร์ นำเสนอปากเปล่าและการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติ นานาชาติ ด้วย แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการจบของหลักสูตรแตกต่างกันไป

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

งานวิจัยเผย : คนที่ทำตัวแปลกๆ หาแฟนง่ายกว่าคนธรรมดา

จากการศึกษางานวิจัยเผยว่า คนที่ทำตัวแปลกๆหรือทำตัวประหลาดแตกต่างจากคนปกติ หรือคนที่มีคาแร็คเตอร์แปลกประหลาดแบบธรรมชาติของเขาเอง สามารถสร้างแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และทำให้มีโอกาสหาแฟนหรือคนรู้ใจได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ใครที่โสดมานานแล้วอยากสละโสด คงจะได้ฤกษ์สละโสดเร็วๆนี้แล้ว . ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวข้างต้น อ้างอิงจากวารสารว่าด้วยบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม (Personality and Social Psychology Bulletin) ของสหรัฐอเมริกา เป็นการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง จากการเลือกเพศตรงข้ามที่สนใจผ่านเว็บไซต์หาคู่เดทออนไลน์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงต่างถูกใจในผู้ที่มีความแปลกกว่าคนทั่วไป ทั้งในเรื่องสไตล์เสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยม และทัศนคติ . บางท่านอาจสงสัยว่า

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

งานวิจัยเผย : ฝนตกทำให้คนเหงา เป็นเรื่องจริงไม่ได้มโนไปเอง

จากการศึกษาเรื่อง ทำไมฝนตกแล้วต้องเหงา หรือผลกระทบจากสภาพอากาศต่อสภาพจิตใจในเชิงวิทยาศาสตร์และจิตวิทยานั้นพบว่า ในช่วงที่ฝนตก สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่ลดต่ำลง และแสงสว่างที่ลดน้อยลง ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของแสงสว่างที่ลดน้อยลงในวันที่ฝนตก เพราะร่างกายของมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ที่คอยกำหนดการทำงานของสมองและร่างกายในแต่ละช่วงของวัน . ซึ่งแสงส่งผลได้อย่างชัดเจน สามารถนึกถึงอารมณ์เวลาที่ตื่นมาในวันที่มีแสงแดดแรง ท้องฟ้าสดใส และไม่ร้อนจนเกินไป กับวันที่ตื่นมาแล้วท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม อารมณ์ความรู้สึกในวันนั้นก็แตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล เพราะการได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือน้อยลงในตอนเช้าส่งผลต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ ต่อเนื่องไปยังสมอง ทำให้สมองผลิตเซโรโทนิน

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

งานวิจัยเผย : วัยรุ่นที่มีแฟนเป็นซึมเศร้ามากกว่าวัยรุ่นที่โสด

วัยรุ่นวัยใสที่ยังไม่มีแฟนหรือแทบจะไม่ได้ไปออกเดทกับใครเขา มักถูกมองว่าขาดเสน่ห์หรือเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก แต่ในขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมวัยรุ่นในสหรัฐฯ เชื่อกันมานานว่า วัยรุ่นที่มีคู่คบหาดูใจจะมีโอกาสพัฒนาทักษะทางสังคมและวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้ดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่แล้วความเชื่อนี้กำลังจะเปลี่ยนไป . เนื่องจากทีมนักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียของสหรัฐฯ ได้มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร “สุขภาพในโรงเรียน” (Journal of School Health) โดยระบุว่า ผลการติดตามเก็บข้อมูลระยะยาวเป็นเวลา 7 ปีกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชี้ว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนกับใครและไม่ค่อยได้ออกเดทนั้น ไม่ได้มีพัฒนาการทางจิตวิทยาตามวัยด้อยไปกว่าเพื่อนที่มีแฟน หนำซ้ำยังมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า และมีภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน

รู้หรือไม่ ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน . เนื่องจากการสำรวจพฤติกรรมการรับสื่อและทัศนคติต่อการรับชมโฆษณา-แคมเปญการตลาดของผู้บริโภคชาวไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทวิจัยสื่อ-การตลาดรายใหญ่ สามารถประมวลเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลกับการสื่อสารและทำการตลาดของภาคธุรกิจในปี 2566 นี้ . พบว่า ผู้บริโภค 85% เชื่อถือโฆษณาในรูปแบบสปอนเซอร์ทีม-การแข่งขัน และ 61% เลือกซื้อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน รวมถึง